ในปี 2025 การใช้ Custom URLs และลิงค์ย่อ (Short URLs) กำลังเป็นเทรนด์สำคัญในโลก E-Commerce ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำตลาดออนไลน์ รวมถึงการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น มาดูกันว่า 5 เทรนด์สำคัญของ Custom URLs สำหรับธุรกิจออนไลน์มีอะไรบ้าง
การใช้ Custom URLs ที่สอดคล้องกับแบรนด์ช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์ แทนที่จะใช้ลิงค์ยาว ๆ อย่าง urlkub.co/product?id=12345&type=shoes คุณสามารถใช้ urlkub.co/shoes เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้รวดเร็วและง่ายดายขึ้น
ลิงค์ย่อที่มีการติดตามข้อมูล เช่น UTM parameters หรือระบบวิเคราะห์ลิงค์อย่าง Bitly หรือ Rebrandly ช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดผลแคมเปญการตลาด วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับตลาดเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
Dynamic Links ช่วยให้ลิงค์เดียวสามารถนำทางผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บที่แตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข เช่น อุปกรณ์ที่ใช้ (Desktop/Mobile) หรือข้อมูลผู้ใช้ที่ได้รับจากระบบ CRM ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการปิดการขายและปรับประสบการณ์การใช้งานให้ตรงกับลูกค้าแต่ละราย
ความปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญที่ธุรกิจต้องคำนึงถึง การใช้ HTTPS, การตั้งค่าลิงค์ที่มีการป้องกันการเปลี่ยนเส้นทางที่ไม่พึงประสงค์ รวมถึงการป้องกันลิงค์สแปม เป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกค้ามีความมั่นใจมากขึ้นในการคลิกเข้าชมหน้าเว็บของร้านค้าออนไลน์
ในปัจจุบัน ธุรกิจ E-Commerce ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการโปรโมตสินค้า การใช้ Custom URLs ที่สั้น กระชับ และสื่อความหมาย จะช่วยเพิ่มอัตราการคลิก (CTR) และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแคมเปญโฆษณาบน Facebook, Instagram, TikTok และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี
urlkub.co/sale2025
Custom URLs และลิงค์ย่อมีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจ E-Commerce ในปี 2025 ไม่ว่าจะเป็นการเสริมแบรนด์ วัดผลแคมเปญ เพิ่มความปลอดภัย หรือปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้ หากธุรกิจของคุณต้องการเพิ่มยอดขายและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง การใช้เทรนด์เหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ได้อย่างแน่นอน